สงกรานต์ในปีนี้มาเยือนแล้ว! ถ้าคุณกำลังมองหาปลายทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจในช่วงนี้ ลองมาดูเมืองยอดนิยมในญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์และกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำในช่วงสงกรานต์กันค่ะ1. โตเกียว (Tokyo)ไฮไลท์:โตเกียวคือเมืองที่มีทุกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช็อปปิ้ง, วัฒนธรรม หรือกิจกรรมต่างๆ ที่เหมาะกับทุกวัย ในช่วงสงกรานต์นี้จะมีงานเทศกาลซากุระที่จัดขึ้นในหลายพื้นที่ เช่น สวนอุเอะโนะ (Ueno Park) หรือสวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen) ที่มีดอกซากุระบานสะพรั่งกิจกรรมที่สามารถทำได้:ชมดอกซากุระที่สวนสาธารณะในโตเกียวเที่ยวสวนสนุก Tokyo Disneyland หรือ Tokyo DisneySeaเดินเล่นในย่านชิบูย่า (Shibuya) หรือฮาราจูกุ (Harajuku) เพื่อชมแฟชั่นสุดชิคและถ่ายรูปเก๋ๆเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นในย่านกินซ่า (Ginza) หรืออะกิฮาบาระ (Akihabara)จุดถ่ายรูป:ชิบูย่าครอสซิ่ง (Shibuya Crossing)วัดเซ็นโซจิ (Senso-ji Temple) ในย่านอาซากุสะ (Asakusa)สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen)ปราสาทโตเกียว (Tokyo Tower)จุดช็อปปิ้ง:ย่านชินจูกุ (Shinjuku) และชิบูย่า (Shibuya)ย่านฮาราจูกุ (Harajuku) และโอโมเตะซานโดะ (Omotesando)ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าสุดหรูที่กินซ่า (Ginza)2. เกียวโต (Kyoto)ไฮไลท์:เกียวโตเป็นเมืองที่มีความงามทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร ในช่วงสงกรานต์ ดอกซากุระจะบานเต็มที่ที่สวนสาธารณะและวัดต่างๆ เช่น วัดคิโยมิซึ (Kiyomizu-dera) และสวนเมียวจิน (Maruyama Park)กิจกรรมที่สามารถทำได้:ชมดอกซากุระที่สวนเมียวจิน (Maruyama Park) และวัดคิโยมิซึ (Kiyomizu-dera)ล่องเรือที่แม่น้ำคาโมะ (Kamo River) หรือเดินเล่นที่ถนนนิกโกะ (Ninenzaka)เยี่ยมชมวัดและศาลเจ้าต่างๆ เช่น วัดทอง (Kinkaku-ji) หรือศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine)จุดถ่ายรูป:วัดคิโยมิซึ (Kiyomizu-dera)สะพานโอโตวะ (Otowa Bridge)ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) กับซุ้มประตูโทริอิสวนเมียวจิน (Maruyama Park)จุดช็อปปิ้ง:ย่านกิออน (Gion)ศูนย์การค้าบริเวณถนนชิโมคิตะ (Shijo Street)ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market)3. โอซาก้า (Osaka)ไฮไลท์:โอซาก้าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวาในช่วงสงกรานต์ มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและความสนุกสนานที่เหมาะสำหรับทุกวัย โดยเฉพาะการชมดอกซากุระที่สวนสาธารณะโอซาก้า (Osaka Castle Park) และสวนซึรุมิ (Tsurumi Ryokuchi Park)กิจกรรมที่สามารถทำได้:ชมวิวปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)เที่ยวอควาเรียมโอซาก้า (Osaka Aquarium Kaiyukan) หรือยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ (Universal Studios Japan)ชิมอาหารอร่อยที่ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) และนัมบะ (Namba)จุดถ่ายรูป:ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) กับป้ายกูลิโกะจุดชมวิวจากอุทยานสึรุมิโนะ (Tsurumi Ryokuchi Park)จุดช็อปปิ้ง:ย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) และโดทงโบริ (Dotonbori)ห้างสรรพสินค้าทันยู (Tansu)ตลาดคุโรมอน (Kuromon Ichiba)4. ฮิโรชิม่า (Hiroshima)ไฮไลท์:ฮิโรชิม่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความสงบในช่วงสงกรานต์ โดยเฉพาะการเยี่ยมชมอนุสรณ์สถานสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park) และเกาะมิยาจิมะ (Miyajima Island) ที่มีวิวธรรมชาติที่สวยงามและศาลเจ้าทะเลที่มีชื่อเสียงกิจกรรมที่สามารถทำได้:เยี่ยมชมอนุสรณ์สถานสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park)ล่องเรือไปเกาะมิยาจิมะ (Miyajima) และเยี่ยมชมศาลเจ้าทะเลอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine)จุดถ่ายรูป:อนุสรณ์สถานสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial)ศาลเจ้ามิยาจิมะ (Itsukushima Shrine) และป้าย toriiทิวทัศน์ของเกาะมิยาจิมะจุดช็อปปิ้ง:ย่านฮิโรชิม่า (Hiroshima Station)ตลาดดันโนะ (Dandan)5. ฟุกุโอกะ (Fukuoka)ไฮไลท์:ฟุกุโอกะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทั้งการท่องเที่ยวทางธรรมชาติและอาหาร ในช่วงสงกรานต์จะได้เห็นดอกซากุระบานที่สวนโอฮอริ (Ohori Park) และยังมีวัดศาลเจ้าอันสงบเงียบให้ได้เยี่ยมชมกิจกรรมที่สามารถทำได้:เที่ยวสวนโอฮอริ (Ohori Park) ชมดอกซากุระเยี่ยมชมศาลเจ้าดาไซฟุ (Dazaifu Tenmangu Shrine)ชิมราเมงที่ย่านท่าเรือฟุกุโอกะจุดถ่ายรูป:สวนโอฮอริ (Ohori Park)ศาลเจ้าดาไซฟุ (Dazaifu Tenmangu Shrine)จุดช็อปปิ้ง:ย่านทาวน์ทูค (Tenjin)ศูนย์การค้ามาร์โค (Marinoa City Fukuoka)เมืองในญี่ปุ่นแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์และความงามที่แตกต่างกันไป การเดินทางไปเที่ยวในช่วงสงกรานต์จะให้คุณได้สัมผัสกับดอกซากุระที่บานสะพรั่งและร่วมกิจกรรมสนุกๆ ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุขและประเพณีญี่ปุ่น ลองเลือกเมืองที่เหมาะกับความสนใจและกำหนดการเดินทางของคุณในปีนี้ค่ะ!

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ตลอดทั้งปี ทั้งในด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยแต่ละเดือนในปีจะมีเมืองที่เหมาะสมกับการเที่ยวต่างกันไป ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและกิจกรรมที่จัดขึ้นในช่วงนั้นๆ ต่อไปนี้เป็นเมืองยอดนิยมในญี่ปุ่นที่น่าเที่ยวในแต่ละเดือน พร้อมข้อมูลอุณหภูมิที่คุณสามารถคาดการณ์ได้ในแต่ละช่วงเวลามกราคม – ฮอกไกโด (Hokkaido)อุณหภูมิ: -6°C ถึง -12°Cในเดือนมกราคม ฮอกไกโดจะเต็มไปด้วยหิมะที่ตกลงมาอย่างหนาแน่น เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด โดยเฉพาะในเมืองนิเซโกะ (Niseko) และฟูราโน่ (Furano) ที่มีสกีรีสอร์ตชั้นนำ นอกจากนี้ยังมีเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ซึ่งเป็นไฮไลท์ที่น่าชมของฤดูหนาวในญี่ปุ่นกุมภาพันธ์ – ซัปโปโร (Sapporo)อุณหภูมิ: -7°C ถึง -10°Cเดือนกุมภาพันธ์ในซัปโปโรเต็มไปด้วยกิจกรรมฤดูหนาว และการเฉลิมฉลองเทศกาลหิมะซัปโปโรที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะการประติมากรรมน้ำแข็งที่สร้างสรรค์และการแสดงแสงสีในยามค่ำคืน เมืองซัปโปโรยังมีแหล่งออนเซ็นให้พักผ่อนและอร่อยกับอาหารท้องถิ่นอย่างราเมงซัปโปโรมีนาคม – เกียวโต (Kyoto)อุณหภูมิ: 5°C ถึง 10°Cในเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระเริ่มบานที่เกียวโต ซึ่งเป็นเมืองที่มีความงามและประวัติศาสตร์ที่ล้ำค่า เกียวโตเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การชมดอกซากุระในสวนและวัดต่างๆ เช่น วัดคิโยมิซึ (Kiyomizu-dera) และสวนอันสงบที่น่าสนใจเมษายน – โตเกียว (Tokyo)อุณหภูมิ: 10°C ถึง 15°Cในเดือนเมษายน ดอกซากุระจะบานเต็มที่ในโตเกียว และสถานที่อย่างสวนอุเอะโนะ (Ueno Park) หรือสวนโชวะ (Shinjuku Gyoen) จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาชมดอกไม้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการสัมผัสกับวัฒนธรรมการชมซากุระที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น นอกจากนี้ โตเกียวยังเป็นเมืองที่มีแหล่งช้อปปิ้งและอาหารมากมายพฤษภาคม – ฮิโรชิม่า (Hiroshima)อุณหภูมิ: 15°C ถึง 20°Cพฤษภาคมในฮิโรชิม่าจะมีอากาศที่เย็นสบาย เหมาะสำหรับการเดินชมเมืองและเยี่ยมชมอนุสรณ์สถานสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park) นอกจากนี้ยังมีสวนสวยๆ เช่น สวนมิโยมะ (Miyajima) ที่มีทิวทัศน์ของภูเขาและทะเลสาบที่งดงามมิถุนายน – โอซาก้า (Osaka)อุณหภูมิ: 20°C ถึง 25°Cโอซาก้าเป็นเมืองที่เหมาะกับการเที่ยวในเดือนมิถุนายน โดยมีอากาศที่อบอุ่นและไม่ร้อนเกินไป การเยี่ยมชมปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) หรือแหล่งช็อปปิ้งในย่านนัมบะ (Namba) จะเป็นกิจกรรมที่น่าสนุก ในเดือนมิถุนายนยังมีเทศกาลที่เกี่ยวข้องกับฤดูฝนที่เริ่มมากรกฎาคม – คิวชู (Kyushu)อุณหภูมิ: 25°C ถึง 30°Cเดือนกรกฎาคมถือเป็นฤดูร้อนในญี่ปุ่น และคิวชูเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เหมาะสำหรับการเที่ยวในช่วงนี้ เนื่องจากมีแหล่งน้ำพุร้อนและกิจกรรมกลางแจ้งที่เยี่ยมยอด เช่น การแช่ออนเซ็นในบีกะ (Beppu) หรือการเดินชมภูเขาไฟในอาคิอิ (Aso) และการเข้าร่วมเทศกาลต่างๆ ในช่วงฤดูร้อนสิงหาคม – นิกโก้ (Nikko)อุณหภูมิ: 20°C ถึง 30°Cนิกโก้เป็นเมืองที่มีอากาศเย็นสบายในเดือนสิงหาคม เมืองนี้เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าชูซอนจิและวัดโทโชกู (Toshogu Shrine) ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามในภูเขาและน้ำตกกันยายน – ฟุกุโอกะ (Fukuoka)อุณหภูมิ: 20°C ถึง 25°Cฟุกุโอกะในเดือนกันยายนเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวด้วยอากาศที่อบอุ่น การเดินเล่นในย่านทาวน์ต่างๆ และการเที่ยวชมโบราณสถาน เช่น ศาลเจ้าโอฮา (Ohori Park) หรือแหล่งช็อปปิ้งในย่านฮากาตะ (Hakata) ยังสามารถสนุกกับอาหารท้องถิ่นได้อย่างเต็มที่ตุลาคม – นาโกย่า (Nagoya)อุณหภูมิ: 15°C ถึง 20°Cในเดือนตุลาคม อากาศในนาโกย่าจะเย็นสบายและเหมาะแก่การเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ เช่น ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า (Nagoya City Science Museum) คุณสามารถเที่ยวชมสวนและการแสดงต่างๆ ที่จัดขึ้นในเมืองพฤศจิกายน – คามาคุระ (Kamakura)อุณหภูมิ: 10°C ถึง 15°Cเดือนพฤศจิกายนในคามาคุระจะมีอากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินชมธรรมชาติและท่องเที่ยวตามวัดต่างๆ ในเมือง เช่น วัดโฮซอนจิ (Hozonji Temple) และการชมใบไม้แดงที่สวยงามในสวนหรืออุทยานต่างๆธันวาคม – โอซาก้า (Osaka)อุณหภูมิ: 5°C ถึง 10°Cโอซาก้าในเดือนธันวาคมมีอากาศหนาวเล็กน้อยและเทศกาลคริสต์มาสที่มีการตกแต่งแสงสีตามถนนและศูนย์การค้าต่างๆ การเที่ยวชมอุทยานและถนนต่างๆ ที่ประดับประดาด้วยแสงไฟถือเป็นกิจกรรมที่นิยมในช่วงเทศกาลนี้ญี่ปุ่นมีเสน่ห์ตลอดทั้งปี โดยแต่ละเดือนในปีจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับฤดูกาลและกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้น การเลือกเมืองตามฤดูกาลและการคาดการณ์อุณหภูมิจะทำให้การเที่ยวในญี่ปุ่นของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและเต็มไปด้วยความสุขค่ะ!

ฮอกไกโดเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีเสน่ห์ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ด้วยธรรมชาติที่สวยงามทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาว การท่องเที่ยวในฮอกไกโดนั้นเต็มไปด้วยหลากหลายกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการเล่นสกี ชมดอกไม้ หรือเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่น ในบทความนี้จะพาไปรู้จักกับไฮไลท์ที่เที่ยวยอดนิยมในฮอกไกโดที่ไม่ควรพลาด!1. สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)สวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงและเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมของฮอกไกโด สวนสัตว์แห่งนี้โดดเด่นด้วยการออกแบบกรงสัตว์ที่สามารถชมสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสัตว์ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ เช่น นกเพนกวินและหมีขั้วโลก2. ฟาร์มโซอุนเคียว (Sounkyo Farm)ฟาร์มที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขาและภูเขา โดยในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนจะมีดอกไม้และพืชผลต่างๆ บานสะพรั่ง และในฤดูหนาวสามารถเพลิดเพลินกับการชมภูเขาหิมะได้3. เกาะโนโบริเบทสึ (Noboribetsu)โด่งดังจากแหล่งน้ำพุร้อนที่มีคุณสมบัติพิเศษ และเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดหากคุณต้องการผ่อนคลายและรีเฟรชตัวเอง ด้วยน้ำพุร้อนจากภูเขาไฟที่มีกลิ่นกำมะถันซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ4. สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park)สวนสาธารณะใจกลางเมืองซัปโปโร ซึ่งเป็นสถานที่ที่นิยมใช้จัดงานเทศกาลต่างๆ รวมถึงงานเทศกาลหิมะซัปโปโรที่โด่งดัง อีกทั้งยังเป็นจุดที่ให้คุณเดินเล่นและถ่ายรูปกับวิวเมืองได้สวยๆ5. ภูเขาฟูราโน่ (Furano)ฟูราโน่เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ซึ่งจะบานในช่วงฤดูร้อน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้และทิวทัศน์ที่งดงาม ที่นี่ยังมีฟาร์มและไร่ที่สามารถเยี่ยมชมได้ตลอดปี6. อุทยานแห่งชาติชิโระอิ (Shiroi Koibito Park)อุทยานแห่งนี้มีชื่อเสียงจากขนมหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของฮอกไกโด "Shiroi Koibito" ซึ่งเป็นขนมคุกกี้ที่ได้รับความนิยม คุณสามารถชมการผลิตขนมและเที่ยวในสวนที่เต็มไปด้วยการตกแต่งที่สวยงาม7. ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya)ทะเลสาบที่มีความสวยงามและเป็นจุดท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ชอบธรรมชาติ ทะเลสาบนี้ยังมีวิวภูเขาไฟที่สวยงาม สามารถเดินชมวิวทะเลสาบ หรือขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อชมทัศนียภาพที่ตระการตา8. ซัปโปโร (Sapporo)เมืองหลวงของฮอกไกโดที่เต็มไปด้วยความคึกคักและกิจกรรมต่างๆ ที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นการชิมราเมงซัปโปโรหรือไปเยือนหอคอยซัปโปโรที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง9. การเล่นสกีที่นิเซโกะ (Niseko)ฮอกไกโดเป็นสวรรค์ของนักสกี โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่นิเซโกะเป็นที่รู้จักทั่วโลกสำหรับสกีและสโนว์บอร์ด กับหิมะที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก รวมถึงโรงแรมและรีสอร์ทที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน10. ถนนสายลาเวนเดอร์ที่ฟูราโน่ (Furano Lavender Fields)ฟูราโน่ไม่เพียงแต่เป็นเมืองที่มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์ในช่วงฤดูร้อน แต่ยังมีทุ่งดอกไม้หลากหลายชนิดในช่วงฤดูอื่นๆ ซึ่งทำให้ฟูราโน่เป็นหนึ่งในจุดที่ดีที่สุดในการชมดอกไม้ในฮอกไกโด11. หมู่บ้านรัสเซีย (Rusutsu Village)เป็นหมู่บ้านที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเหมาะสำหรับครอบครัว โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ที่นี่มีการเล่นสกีที่ดีและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจที่เหมาะแก่การใช้เวลาทั้งวัน12. ดิวตี้ฟรีฮอกไกโด (Hokkaido Duty Free Shops)หากคุณเป็นนักช้อปปิ้งที่ชอบซื้อสินค้าราคาพิเศษ ที่ฮอกไกโดมีร้านดิวตี้ฟรีหลายแห่งที่คุณสามารถซื้อสินค้าปลอดภาษีได้ ไม่ว่าจะเป็นของฝากที่มีเอกลักษณ์จากฮอกไกโดหรือสินค้าแฟชั่นต่างๆการเที่ยวฮอกไกโดไม่ว่าจะเป็นในฤดูหนาวที่มีหิมะหรือฤดูร้อนที่มีดอกไม้บาน ก็เต็มไปด้วยความหลากหลายที่น่าตื่นตาตื่นใจ และการได้สัมผัสกับธรรมชาติและวัฒนธรรมของพื้นที่นี้จะทำให้การท่องเที่ยวของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำค่ะ!

การไปเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ในญี่ปุ่นไม่ใช่แค่การไปสวนสนุกเท่านั้น แต่เป็นการสัมผัสกับโลกเวทมนตร์ที่เต็มไปด้วยความฝันและความสนุกสนานที่ไม่เหมือนใคร ถ้าคุณกำลังวางแผนจะไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ในโตเกียว ลองมาดูเคล็ดลับที่ช่วยให้การเที่ยวของคุณสนุกและเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้นค่ะ! 1. วางแผนล่วงหน้า การเที่ยวดิสนีย์แลนด์ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยวที่มีคนเยอะ ดังนั้นการวางแผนล่วงหน้าจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก! จองตั๋วล่วงหน้าออนไลน์เพื่อหลีกเลี่ยงการยืนต่อแถวซื้อตั๋วในวันนั้น และถ้าคุณไปในช่วงวันหยุดยาวหรือเทศกาล อย่าลืมตรวจสอบเว็บไซต์เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาทำการหรือกิจกรรมพิเศษต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น 2. ใช้แอปพลิเคชัน Disney ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท แอปพลิเคชัน Disney Resort Line คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คุณไม่พลาดทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในดิสนีย์แลนด์ โดยแอปนี้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับเวลาการแสดง, เวลารอคิว, แผนที่สวนสนุก, และข้อมูลต่างๆ ที่จะทำให้การเที่ยวของคุณง่ายและสนุกมากขึ้น 3. รีบไปตั้งแต่เช้า การเริ่มต้นเที่ยวแต่เช้าจะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับสวนสนุกในช่วงเวลาที่ผู้คนยังไม่เยอะ และคุณสามารถไปเล่นเครื่องเล่นที่คุณชื่นชอบได้ก่อนที่คิวยาวจะเริ่มขึ้น แนะนำให้ไปถึงที่ตั้งแต่สวนเปิดเพื่อที่จะได้ไม่พลาดกับกิจกรรมสำคัญๆ ในวันนั้น 4. เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับคิวยาว ถึงแม้ว่าเราจะไม่อยากยืนต่อแถว แต่ในบางช่วงเวลาคิวก็อาจยาวนานไปหน่อย โดยเฉพาะเครื่องเล่นยอดนิยมอย่าง Space Mountain หรือ Pooh's Hunny Hunt ดังนั้นอย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมด้วยการสวมใส่รองเท้าที่สบายและเตรียมขนมขบเคี้ยวติดตัวไปเพื่อลดความเบื่อหน่ายในขณะรอ 5. ใช้ FastPass หนึ่งในฟีเจอร์สุดเจ๋งของโตเกียวดิสนีย์แลนด์คือระบบ FastPass ซึ่งช่วยให้คุณสามารถจองเครื่องเล่นที่มีความนิยมสูงได้โดยไม่ต้องยืนต่อแถวเป็นเวลานาน เมื่อคุณเข้าไปที่สวนสนุกแล้ว ลองตรวจสอบเครื่องเล่นที่สามารถใช้ FastPass ได้แล้วจองเอาไว้ในช่วงเวลาที่สะดวก 6. เพลิดเพลินกับขนมและของกิน หนึ่งในความสนุกของการเที่ยวดิสนีย์แลนด์คือการได้ลองชิมขนมและของกินที่ไม่เหมือนที่ไหน เช่น ขนมปัง Mickey-shaped, ไอศกรีมโคนที่มีรูปตัวละครดิสนีย์ หรือขนมสายไหมที่มีสีสันสดใส อย่าลืมแวะซื้อขนมเด็ดๆ ที่ทำให้ประสบการณ์การเที่ยวของคุณเต็มไปด้วยรสชาติ 7. สัมผัสความงามของการแสดง การแสดงในโตเกียวดิสนีย์แลนด์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นการแสดงพาเหรดที่มีตัวละครดิสนีย์มารวมตัวกัน หรือโชว์กลางคืนที่มีการแสดงแสงสีเสียงที่ตระการตา การได้เห็นตัวละครที่คุณชื่นชอบในชีวิตจริงจะทำให้ประสบการณ์ของคุณมีสีสันมากขึ้น 8. แต่งตัวให้เหมาะสม การแต่งตัวให้เหมาะสมกับการเที่ยวในสวนสนุกถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะคุณจะต้องเดินเยอะและอยู่กลางแจ้งหลายชั่วโมง ควรเลือกเสื้อผ้าที่ใส่สบาย และรองเท้าผ้าใบที่สามารถเดินได้นานๆ นอกจากนี้หากคุณอยากถ่ายรูปกับตัวละครดิสนีย์ อย่าลืมพกอุปกรณ์หรือของใช้ที่มีธีมดิสนีย์เพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการถ่ายรูป 9. ถ่ายรูปกับตัวละครที่คุณชื่นชอบ อย่าพลาดโอกาสที่จะถ่ายรูปกับตัวละครที่คุณรักในโลกของดิสนีย์ เช่น มิคกี้เมาส์, มินนี่เมาส์, หรือ โดนัลด์ดั๊ก ที่จะคอยมอบความสุขให้กับคุณทั้งวัน อีกทั้งยังเป็นความทรงจำที่ดีที่จะเก็บไว้ในชีวิต 10. พักผ่อนและสนุกไปกับกิจกรรม ไม่จำเป็นต้องไปทุกเครื่องเล่นในครั้งเดียว พักผ่อนบ้าง เล่นบ้าง แวะชมกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นในแต่ละวัน เช่น การเดินพาเหรดหรืองานแสดงต่างๆ โดยสามารถใช้เวลานี้ในการพักขาท่ามกลางความสนุกสนาน 11. อย่าลืมของที่ระลึก สุดท้ายนี้ ถ้าคุณเป็นแฟนตัวจริงของดิสนีย์ อย่าลืมซื้อของที่ระลึกจากร้านของขวัญในดิสนีย์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาตัวละครหรือเครื่องใช้ต่างๆ ที่จะทำให้คุณระลึกถึงความสุขในวันนั้น การเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์เป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความสนุกและความทรงจำที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการได้เล่นเครื่องเล่นสุดมันส์, ได้พบกับตัวละครที่คุณรัก หรือได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ที่ดิสนีย์มอบให้ ขอให้คุณสนุกกับการเดินทางไปโตเกียวดิสนีย์แลนด์และสร้างความทรงจำดีๆ ที่จะอยู่กับคุณตลอดไปค่ะ!

โอซาก้าไม่เพียงแต่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความคึกคักและอาหารอร่อย แต่ยังมีสถานที่หลายแห่งที่เหมาะสำหรับการชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสความงามของดอกไม้ที่บานสะพรั่งในท่ามกลางเมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและเสน่ห์ วันนี้ฉันขอพาทุกคนไปชม 12 แหล่งชมซากุระในโอซาก้าที่ไม่ควรพลาดกันค่ะ!1. สวนซูอิเอ็น (Suiyuen Park)เป็นสวนสาธารณะที่มีบรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่น มีต้นซากุระที่บานสะพรั่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เหมาะสำหรับการเดินชมและพักผ่อนใต้ต้นซากุระในบรรยากาศสงบ2. สวนโอซาก้า (Osaka Castle Park)สวนรอบปราสาทโอซาก้าเป็นอีกหนึ่งจุดที่มีต้นซากุระจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ที่จะบานเต็มสวน ทำให้คุณสามารถชมวิวปราสาทในฉากหลังของดอกซากุระที่บานได้อย่างงดงาม3. แม่น้ำโมกะ (Moka River)บริเวณริมแม่น้ำโมกะมีต้นซากุระเรียงรายไปตามฝั่งแม่น้ำ สร้างบรรยากาศโรแมนติกที่สามารถเดินชมซากุระพร้อมทั้งถ่ายภาพสวยๆ ได้4. สวนเคนโรคุเอ็น (Kema Sakuranomiya Park)ที่นี่เป็นจุดชมซากุระที่โด่งดังในโอซาก้า โดยมีต้นซากุระประมาณ 5,000 ต้นเรียงรายตามริมแม่น้ำ มีทั้งเส้นทางเดินและพื้นที่เหมาะสำหรับการปิกนิก5. สวนเท็นโนจิ (Tennoji Park)สวนที่ตั้งอยู่ใกล้กับย่านเท็นโนจิ มีทั้งสวนดอกไม้และต้นซากุระที่บานสะพรั่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สวนนี้เป็นที่นิยมในการชมดอกไม้และเดินเล่น6. สวนฮานาซากะ (Hanazono Park)สวนขนาดกลางที่ตั้งอยู่ในย่านนัมบะ เป็นจุดที่คนในท้องถิ่นมักมาพักผ่อนและชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ7. แม่น้ำโยโดะ (Yodo River)แม่น้ำโยโดะเป็นอีกหนึ่งจุดที่เหมาะแก่การชมซากุระ โดยที่ต้นซากุระจะบานตามริมฝั่งแม่น้ำ คุณสามารถเดินเล่นหรือขี่จักรยานชมดอกไม้ได้8. สวนซึรุมะ (Tsurumi Ryokuchi Park)เป็นสวนที่มีพื้นที่กว้างขวางและมีซากุระหลายพันธุ์ที่บานในฤดูใบไม้ผลิ สวนนี้มักจะมีงานเทศกาลและกิจกรรมที่เกี่ยวกับซากุระให้คุณได้เข้าร่วม9. สวนมารุเบตะ (Marubetsu Park)ตั้งอยู่ในเขตอิเคะบุคุระ มีต้นซากุระที่บานสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ พร้อมทั้งเส้นทางเดินชมธรรมชาติและลานกว้างที่เหมาะสำหรับการปิกนิก10. สวนฮิกาชิยามะ (Higashiyama Park)เป็นสวนที่ตั้งอยู่ในเขตคิตะของโอซาก้า ที่มีซากุระมากมาย และมีวิวที่สามารถมองเห็นเมืองโอซาก้าได้อย่างชัดเจน11. ย่านนัมบะ (Namba Parks)นอกจากจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมของโอซาก้าแล้ว ย่านนัมบะยังมีสวนบนดาดฟ้าที่สวยงาม ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะเต็มไปด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่ง12. สวนอามากาซากะ (Amagasaki Park)สวนที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองอามากาซากะ ซึ่งไม่ไกลจากโอซาก้ามาก มีต้นซากุระที่บานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และมีบรรยากาศที่สงบเหมาะแก่การเดินเล่นไม่ว่าจะเป็นสวนขนาดใหญ่หรือแม่น้ำริมทางเดิน คุณจะพบกับความงดงามของดอกซากุระที่บานสะพรั่งในเมืองโอซาก้าในช่วงฤดูใบไม้ผลิค่ะ หากคุณกำลังวางแผนไปเที่ยวโอซาก้าในช่วงนี้ อย่าลืมไปเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศของดอกซากุระที่สวยงามกันนะคะ!

ฤดูใบไม้ผลิในโตเกียวไม่ใช่แค่เวลาของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ แต่ยังเป็นช่วงที่เมืองนี้เต็มไปด้วยความงดงามจากดอกซากุระที่บานสะพรั่งอย่างยิ่งใหญ่ หากคุณกำลังมองหาสถานที่เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศสุดพิเศษของดอกซากุระในโตเกียว ลองตามมาดูกันเลยค่ะว่ามีแหล่งชมซากุระสวยๆ ที่ไหนบ้าง!1. อุเอโนะ ปาร์ค (Ueno Park)อุเอโนะปาร์คคือแหล่งชมซากุระสุดฮิตในโตเกียว มีต้นซากุระเรียงรายกว่า 1,000 ต้น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ บรรยากาศจะเต็มไปด้วยผู้คนที่มานั่งปิกนิกใต้ต้นซากุระและเพลิดเพลินไปกับการชมดอกไม้2. สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen National Garden)สวนสวยในใจกลางโตเกียวที่มีทั้งต้นซากุระพันธุ์ต่างๆ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเดินชมต้นซากุระที่บานสะพรั่งในบรรยากาศเงียบสงบ ไม่ไกลจากสถานีชินจูกุ3. แม่น้ำเมะโซ (Meguro River)เมื่อนึกถึงความโรแมนติกในฤดูซากุระ แม่น้ำเมะโซคือที่ที่คุณต้องไป ซากุระเรียงรายไปตามริมฝั่งแม่น้ำ ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่เหมาะแก่การเดินชมดอกซากุระหรือจะนั่งเรือพายเพื่อชมวิวแบบพิเศษก็ได้ค่ะ4. สวนโยโยกิ (Yoyogi Park)ใกล้กับศาลเจ้าเมจิ สวนโยโยกิมีพื้นที่กว้างขวางที่เต็มไปด้วยต้นซากุระ บรรยากาศที่นี่มีความเป็นธรรมชาติและผ่อนคลาย เหมาะแก่การปิกนิกและนั่งพักผ่อนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ5. สะพานโกเอ็นจิ (Chidorigafuchi)หากคุณอยากสัมผัสความงดงามของซากุระในมุมที่ต่างออกไป ลองไปที่สะพานโกเอ็นจิที่ตั้งอยู่ใกล้กับปราสาทโตเกียว ที่นี่คุณสามารถนั่งเรือพายชมดอกซากุระที่บานสะพรั่งริมแม่น้ำได้6. สวนมิโยชิ (Miyashita Park)สวนบนหลังคาที่ตั้งอยู่ในย่านชิบุยะแห่งนี้มอบวิวที่สวยงามของเมืองโตเกียวและมีต้นซากุระที่บานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ด้วยบรรยากาศที่แปลกใหม่และวิวสวยๆ ที่ไม่เหมือนใคร7. ฮาราจูกุ (Harajuku)ย่านที่ไม่เพียงแต่มีแฟชั่นที่โดดเด่น แต่ยังมีต้นซากุระที่บานสวยในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยเฉพาะที่ถนนโอมาโมริจะมีซากุระเรียงรายรอบๆ คุณสามารถเดินชมดอกซากุระไปพร้อมกับการเดินช้อปปิ้งที่นี่ได้8. โตเกียว เมโทรโพลิแทน กาเซโน (Tokyo Metropolitan Government Building)สถานที่ที่คุณสามารถชมวิวของโตเกียวพร้อมกับดอกซากุระได้จากชั้นดาดฟ้าของตึกนี้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูซากุระ มุมมองจากที่นี่จะทำให้คุณได้เห็นเมืองที่เต็มไปด้วยดอกไม้บาน9. คาชิวา (Kashiwa)ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ใจกลางเมืองโตเกียว แต่คาชิวามีแหล่งชมซากุระที่สวยงามและเงียบสงบที่สามารถมาพักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบและไม่แออัด10. สวนโคเมดะ (Komeda Park)สวนเล็กๆ ที่เหมาะแก่การเดินเล่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีต้นซากุระที่บานในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน ซึ่งคุณจะได้พบกับบรรยากาศที่สงบและอากาศเย็นสบาย11. ซากุระโนะมิยะ (Sakurano Miya)สถานที่ที่เหมาะสำหรับคนที่รักการเดินชมต้นซากุระ โดยเฉพาะในช่วงเย็นที่ต้นซากุระจะถูกประดับไฟส่องสว่าง ทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นฉากที่โรแมนติก12. โอโดะริคาวะ (Odaiba)แม้ว่าจะอยู่ห่างจากศูนย์กลางเมืองโตเกียว แต่โอโดะริคาวะมีสวนที่เต็มไปด้วยซากุระที่เหมาะแก่การเดินชมและถ่ายรูป เป็นจุดที่น่าประทับใจพร้อมวิวทะเลและท้องฟ้าไม่ว่าคุณจะชอบบรรยากาศคึกคักหรือสงบเงียบ โตเกียวมีสถานที่มากมายที่สามารถให้คุณสัมผัสความงดงามของดอกซากุระได้อย่างเต็มที่ ในฤดูใบไม้ผลินี้ อย่าลืมหาเวลาไปชมความสวยงามของซากุระในเมืองโตเกียวกันนะคะ!

เที่ยวนครสวรรค์ เมืองสวรรค์แห่งปากน้ำโพ ดินแดนแห่งประตูสู่ภาคเหนือ อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง ที่ตอนนี้บอกเลยว่าน่าเที่ยวไม่แพ้จังหวัดใหญ่ๆ ใดใดเลย เพราะนครสวรรค์ มีที่เที่ยวที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางสายบุญ บอกเลยว่านครสวรรค์มีวัดวาอาราม ที่มีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรตระการตา มีความงดงามในระดับ Unseen  อยู่มากมาย นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ แม่น้ำ ภูเขา และมีตลาดเมืองเก่าสุดคลาสสิคอย่างตลาดชุมแสงให้แฟนละครตามไปฟินกันได้อีก ที่สำคัญจังหวัดนี้ไม่ไกลจากกรุงเทพมาก ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่สองชั่วโมงหรือสามชั่วโมงก็ถึงแล้ว จึงเหมาะมากๆ ที่จะเป็นจุดด์ในวันหยุดสำหรับคนมีเวลาน้อยที่ชอบเที่ยวไทยแบบใกล้กรุงเทพ  ว่าแต่มีพิกัดไหนให้ตามไปฟินกันได้บ้าง ตามไปชมกันเลย 

ปลายปีอากาศหนาวๆแบบนี้หลายคนคงออกต่างจังหวัดไปเที่ยวตามที่ต่างๆกันมากมาย แต่ละจังหวัด แต่ละสถานที่ก็พร้อมจัดงานต้อนรับนักท่องเที่ยวกันเต็มที่ ธรรมชาติก็เช่นเดียวกันที่จะออกดอก ออกผลต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ บ้านและสวนจึงพาผู้อ่านไปชม 15 สถานที่ชมทุ่งดอกไม้บาน (ธันวาคม – มกราคม) ไว้เป็นไอเดียสำหรับใครยังไม่มีทริปไปเที่ยวไหนช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่นี้